คู่มือการยื่นแบบ ยป.4 (หลักสูตร e-Learning)
ผ่านระบบ PRB e-Service (Step-by-Step)

(ข้อมูลอ้างอิง จากวีดีโอกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PRB. e-Service EP.14) ดูคลิปวีดีโอคลิก

สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเริ่ม:

• การยื่นนี้สำหรับนายจ้างที่จัดฝึกอบรมให้ลูกจ้างผ่าน หลักสูตร e-Learning ที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานรับรองเท่านั้น
• วัตถุประสงค์ เพื่อใช้ “นับจำนวนผู้รับการฝึก” ในการประเมินเงินสมทบกองทุนพัฒนาฝีมือแรงงานเท่านั้น

ขั้นตอนที่ 1: การเข้าใช้งานและตรวจสอบข้อมูล

1. เข้าสู่เว็บไซต์

• เข้าไปที่ eservice.dsd.go.th
• สังเกตเมนูด้านบน เลือกเมนูที่ 4 “การยื่นคำขอรับสิทธิประโยชน์ (PRB e-Service)”
• คลิกไอคอน “ยื่นกรณีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงาน หรือการฝึกเปลี่ยนสาขาอาชีพ”

2. ล็อกอินเข้าระบบ

• กรอก เลขทะเบียนสถานประกอบกิจการ 10 หลัก และรหัสผ่าน
• กด “เข้าสู่ระบบ”

3. การตรวจสอบรายชื่อหลักสูตร (แนะนำให้ทำก่อนยื่น)

• เมื่อเข้ามาหน้าแรก ให้เลือกไอคอนหมายเลข 9 “ข้อมูลหลักสูตรของกรมฯ และหลักสูตรที่กรมรับรอง (e-Learning)”

• คลิกเลือก “หลักสูตรที่กรมให้การรับรอง (e-Learning)”

• วิธีการค้นหา:
  • ค้นหาด้วยชื่อ: พิมพ์คำค้น (Keyword) เช่น “บัญชี” ระบบจะแสดงทุกหลักสูตรที่มีคำว่าบัญชี
  • ค้นหาด้วยรหัส: ระบุรหัสหลักสูตร เช่น DSD680010 (แม่นยำกว่า)

• จุดที่ต้องจดจำ: ให้ดู คอลัมน์ที่ 5 “กลุ่มสาขาอาชีพที่รองรับ” ว่าหลักสูตรนั้นรองรับสาขาอาชีพอะไรบ้าง (ต้องใช้ข้อมูลนี้ไปกรอกในขั้นตอนการยื่น)

ขั้นตอนที่ 2: ขั้นตอนการยื่นคำขอ (แบบ ยป.4)

1. เริ่มต้นสร้างคำขอ

• กลับมาที่หน้าหลัก คลิกไอคอนที่ 2 “ยื่นคำขอฝึกเอง หรือจ้างจัดฝึก (ยป.1, ยป.2, ยป.4)”

• กดปุ่ม “เพิ่มรายการ” (มุมขวาบนของตาราง)

2. กรอกข้อมูลส่วนที่ 1: ข้อมูลบริษัท (ระบบดึงให้อัตโนมัติ)

• ตรวจสอบชื่อและที่ตั้ง

• หากข้อมูลผิด: ต้องยื่นแบบ สท.8 เพื่อขอแก้ไขข้อมูลกับกรมฯ ก่อน
• ตรวจสอบรายชื่อผู้มีอำนาจทำการแทน

3. กรอกข้อมูลส่วนที่ 2: การยื่นคำขอ

• หน่วยงานที่ยื่นขอรับรอง: ระบบเลือกให้อัตโนมัติจากที่ตั้ง (เช่น ถ้าอยู่ กทม. จะขึ้นเป็น สถาบันฯ 13)
• แบบฟอร์มการยื่น: เลือก “ยป.4” (การจัดฝึกอบรมให้ลูกจ้างเอง หรือจ้างจัดฝึกอบรมหลักสูตรเดิมฯ)
• กดปุ่ม “บันทึก” เพื่อไปต่อ

4. กรอกข้อมูลส่วนที่ 3: รายละเอียดหลักสูตร (สำคัญมาก!)

• 1.1 ประเภทหลักสูตร: เลือก “หลักสูตรที่กรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้การรับรอง e-Learning”
• 1.2 ชื่อหลักสูตร: กดปุ่มแว่นขยาย แล้วค้นหาชื่อหลักสูตรที่ต้องการ ระบบจะดึงข้อมูลมาใส่ให้อัตโนมัตข้อมูลที่ต้องกรอกเอง:
• 1.3 ประเภทการฝึก:
  • ยกระดับฝีมือ: ฝึกสาขาอาชีพเดิม (ไม่น้อยกว่า 6 ชม.)
  • เปลี่ยนสาขาอาชีพ: ฝึกอาชีพใหม่เพิ่มเติม (ไม่น้อยกว่า 18 ชม.)

• 1.4 สาขาอาชีพ: เลือกสาขาอาชีพให้ตรงกับที่ระบุไว้ในหลักสูตร (นำข้อมูลจากที่เช็กไว้ในส่วนที่ 1 มาตอบ)

• 1.5 คุณสมบัติผู้เข้าฝึก: ระบุตำแหน่งงานที่สอดคล้องกับเนื้อหา

• ข้อมูลรุ่นการฝึก:
  • 2.1 จำนวนผู้เข้าฝึก: ระบุจำนวนคน (e-Learning ไม่จำกัดจำนวน)
  • 2.2 กำหนดการ: ต้องยื่นล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน (ระบบจะล็อกวันที่เริ่มฝึกให้อัตโนมัติ หากยื่นช้าระบบจะไม่ให้ผ่าน)
    • Tip: ควรกำหนดช่วงเวลาฝึกให้จบภายใน 1 เดือน เพื่อง่ายต่อการทำรายงานสรุปผลภายหลัง

• กด “บันทึก”

ขั้นตอนที่ 3: การส่งข้อมูล (Final Step)

• ไปที่ ส่วนที่ 4: ส่งข้อมูลเข้าระบบ
• สถานะเริ่มต้นจะเป็น “อยู่ระหว่างจัดทำ” (ยังแก้ไขได้)

• เมื่อมั่นใจแล้ว ให้เปลี่ยนสถานะเป็น “ส่งข้อมูล”
• กด “บันทึก”
• คำเตือน: เมื่อกดส่งข้อมูลแล้ว จะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้อีก ข้อมูลจะถูกส่งไปยังนายทะเบียนทันที

” ยื่น e-Learning ต้องเผื่อเวลา 30 วัน ไม่งั้น…เริ่มฝึกไม่ได้!”

1. กฎนี้คืออะไร?

ในการยื่นรับรองหลักสูตร e-Learning (แบบ ยป.4) กรมพัฒนาฝีมือแรงงานกำหนดไว้ชัดเจนว่า “ต้องยื่นคำขอล่วงหน้าก่อนวันเริ่มฝึกอบรม ไม่น้อยกว่า 30 วัน”

2. ระบบล็อกไว้อัตโนมัติ

ระบบ PRB e-Service มีการล็อกโปรแกรมไว้แล้วค่ะ เราไม่สามารถกรอกวันที่ย้อนหลัง หรือกรอกวันที่เร็วความกว่ากำหนดได้

• ตัวอย่างจากระบบจริง:
  • สมมติว่าพนักงานคีย์ข้อมูลยื่นเรื่องวันที่ 10 ตุลาคม
  • ระบบจะบังคับให้เลือกวัน เริ่มฝึกอบรม ได้เร็วที่สุดคือวันที่ 9 พฤศจิกายน เป็นต้นไป
  • (จะไม่สามารถเลือกวันที่ 11-31 ตุลาคม หรือ 1-8 พฤศจิกายน ได้เลย ช่องวันที่นั้นจะเป็นสีเทาหรือคลิกไม่ได้)

3. ผลกระทบถ้าวางแผนไม่ดี

• เริ่มฝึกไม่ทัน: ถ้าบริษัทมีกำหนดการฝึกอบรมที่แน่นอนแล้ว (เช่น ต้องรีบฝึกให้จบภายในเดือนนี้) แต่เพิ่งมายื่นขอรับรองในระบบ จะ “ไม่ทัน” เพราะต้องรอนับไปอีก 30 วันถึงจะเริ่มนับชั่วโมงได้
• เสียสิทธิประโยชน์: หากดำเนินการฝึกไปก่อนโดยที่วันในระบบยังไม่ถึงกำหนด การฝึกนั้นอาจจะไม่ถูกนับเป็นยอดเพื่อประเมินเงินสมทบกองทุนฯ