
วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น
PC | Notebook | มือถือ | Tablet | iPad
หากคุณพบว่าคลิปวิดีโอเรียนออนไลน์ “เล่นไม่ได้”, “ค้าง”, “ขึ้น X”, หรือมีข้อความเช่น
“The media could not be loaded…”
บทความนี้รวบรวมทุกอาการ และบอกวิธีแก้เบื้องต้นให้คุณลองทำได้เองได้ง่ายๆ
อาการที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้เบื้องต้น
✅ อาการที่ 1: วิดีโอไม่โหลด / มีเครื่องหมาย X ขึ้นกลางหน้าจอ
สาเหตุ:
- เบราว์เซอร์เก็บ cache เก่า
- safari/Chrome ค้าง
- ไฟล์วิดีโอถูกบล็อกด้วยระบบความปลอดภัย
วิธีแก้:
- กด Refresh หน้าเว็บ
- ปิดหน้าเว็บแล้วเปิดใหม่
- ลองเปลี่ยนเบราว์เซอร์ เช่น Chrome → Edge / Safari → Chrome
- ล้าง Cache
- PC (Chrome): Settings → Privacy → Clear browsing data
- iPad/iPhone (Safari): Settings → Safari → Clear History and Website Data
- ปิด VPN / Private Relay / Proxy
- รีสตาร์ทเครื่องหนึ่งครั้ง
✅ อาการที่ 2: เคยดูได้ แต่วันถัดมาเปิดไม่ได้
สาเหตุ:
- Safari เก็บข้อมูลวิดีโอเก่าค้าง
- การตั้งค่าความปลอดภัยของ iPad บล็อกไฟล์วิดีโอ
- iPadOS ไม่รองรับไฟล์ HTML5 บางประเภท
วิธีแก้:
- ล้างข้อมูล Safari Settings → Safari → Clear History and Website Data
- เปิด JavaScript Settings → Safari → Advanced → JavaScript = ON
- ปิด Prevent Cross-Site Tracking
- ปิด Private Relay (iCloud)
- ปิด VPN
- อัปเดต iPadOS
- ถ้ายังไม่ได้ → ลองใช้ Chrome / Firefox แทน Safari
✅ อาการที่ 3: วิดีโอหมุนอยู่ แต่ไม่ยอมเล่น
สาเหตุ:
- อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร
- ความเร็วปรับคุณภาพวิดีโอไม่ทัน
- เครื่องเหลือพื้นที่น้อยเกินไป
วิธีแก้:
- เปลี่ยนจาก Wi-Fi เป็น 4G/5G → ทดสอบ
- รีสตาร์ท Router
- ย้ายไปพื้นที่ที่สัญญาณแรงขึ้น
- เช็กพื้นที่เครื่อง
- เหลือน้อยกว่า 1GB → Safari/Chrome จะโหลดวิดีโอไม่ได้
- ปิดแอปอื่นที่เปิดค้างเพื่อลด RAM
✅ อาการที่ 4: ดูบนมือถือไม่ได้ แต่ในคอมดูได้
สาเหตุ:
- ระบบมือถือบล็อก Cookie
- เบราว์เซอร์ไม่ได้รับอนุญาตให้รันวิดีโอ
- แคชจำผิดไฟล์
วิธีแก้:
- ล้าง Cache เบราว์เซอร์
- ปิดโหมดประหยัดข้อมูล (Data Saver)
- ปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode)
- เปิดอนุญาต JavaScript & Cookies
- ลองเปิดด้วยเบราว์เซอร์อื่น
✅ อาการที่ 5: เปิดวิดีโอแล้วมีเสียง แต่ภาพไม่ขึ้น
สาเหตุ:
- Codec วิดีโอของอุปกรณ์ไม่รองรับ H.265
- เว็บโหลดภาพไม่ครบ
วิธีแก้:
- อัปเดตเบราว์เซอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด
- อัปเดต iOS / Android
- เปลี่ยนเบราว์เซอร์ (Chrome ↔ Safari ↔ Edge)
- รีสตาร์ทเครื่อง
วิธีแก้ปัญหาเฉพาะอุปกรณ์
สำหรับคอมพิวเตอร์ (PC / Notebook)
ให้ลองตามลำดับนี้:
- Refresh หน้าเว็บ
- เปลี่ยนเบราว์เซอร์
- ล้าง Cache
- ปิด Extensions เช่น AdBlock
- ปิด VPN
- รีสตาร์ทเครื่อง
สำหรับมือถือ (iPhone / Android)
- ปิด-เปิดแอปเบราว์เซอร์
- ล้าง Cache
- เปลี่ยนไปใช้ Mobile Data เพื่อทดสอบ
- อัปเดตระบบ
- ทดลองใช้ Chrome/Firefox
สำหรับ Tablet / iPad
- ล้างข้อมูล Safari
- เปิด JavaScript / เปิด Cookies
- ปิด Private Relay และ VPN
- อัปเดต iPadOS
- อย่าให้พื้นที่เครื่องเต็ม
- ถ้ายังไม่ได้ → ใช้ Chrome เปิดแทนได้ผลมากในหลายเคส
หากทำครบทุกขั้นตอนแล้วยังดูวิดีโอไม่ได้ ให้ตรวจสอบดังนี้
เมื่อคุณลองแก้ไขทุกวิธีแล้ว แต่ระบบยังไม่สามารถแสดงวิดีโอได้ อาจเกิดจากปัญหาอื่นที่เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ หรือการตั้งค่าระบบที่ลึกขึ้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
🔹 1) ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างละเอียด
แม้จะเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ แต่บางครั้งอินเทอร์เน็ตอาจ “ช้าเป็นช่วง ๆ” หรือ “มีแพ็กเกจจำกัดความเร็ว” ทำให้วิดีโอไม่โหลด
วิธีตรวจสอบ:
✔ สลับเน็ตชั่วคราว
- จาก Wi-Fi → Hotspot มือถือ
- หรือจาก Hotspot → Wi-Fi
ถ้าเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตแล้วเล่นได้ → ปัญหาอยู่ที่เครือข่ายเดิมแน่นอน เช่น Router, ISP หรือ Firewall
✔ ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต (Speedtest)
เข้าเว็บไซต์: speedtest.net
ดูค่าที่สำคัญ:
- Download speed ควรมากกว่า 5 Mbps สำหรับเรียนวิดีโอทั่วไป
- Ping ไม่ควรเกิน 40–80ms
- ถ้าค่าผันผวนมาก วิดีโออาจโหลดไม่ขึ้น
🔹 2) ทดลองเปิดวิดีโอจาก “อุปกรณ์อื่น”
การทดสอบนี้ช่วยแยกได้ว่าปัญหาอยู่ที่ “ระบบ” หรือ “อุปกรณ์ของคุณ”
วิธีตรวจสอบ:
ลองเปิดจาก
- มือถือ iPhone / Android
- แท็บเล็ต
- คอมพิวเตอร์อีกเครื่อง
- เบราว์เซอร์อื่น
✔ หากอุปกรณ์อื่น เล่นได้ปกติ → ปัญหามาจากเครื่องเดิม เช่น การตั้งค่า, Cache, ระบบป้องกันความปลอดภัย, พื้นที่เครื่อง, หรือเบราว์เซอร์
✔ หาก ทุกอุปกรณ์เล่นไม่ได้เหมือนกัน → อาจเกิดจากไฟล์วิดีโอ, ระบบเซิร์ฟเวอร์, หรืออินเทอร์เน็ตของบ้าน/สำนักงาน
🔹 3) ถ่ายภาพหน้าจอ Error ส่งให้ทีมงานตรวจสอบ
การมีภาพหน้าจอช่วยให้ทีมเทคนิคหาสาเหตุได้แม่นขึ้น เช่น
- รูปไอคอนตัว X
- ข้อความเตือน (Error code)
- หน้าจอวิดีโอค้าง
- หน้าเว็บไม่โหลด
ควรส่งข้อมูลตามนี้:
- ภาพหน้าจอ Error
- ชื่ออุปกรณ์ + รุ่นที่ใช้
- ชื่อเบราว์เซอร์ (Chrome/Safari/Edge) + เวอร์ชัน
- อินเทอร์เน็ตที่ใช้ (Wi-Fi/4G/5G)
- เวลาเกิดปัญหา
ยิ่งข้อมูลครบ ทีมงานแก้ไขได้เร็วขึ้นมาก

Leave a Reply