วิดีโอ e-Learning เล่นไม่ได้

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น

PC | Notebook | มือถือ | Tablet | iPad

หากคุณพบว่าคลิปวิดีโอเรียนออนไลน์ “เล่นไม่ได้”, “ค้าง”, “ขึ้น X”, หรือมีข้อความเช่น
“The media could not be loaded…”
บทความนี้รวบรวมทุกอาการ และบอกวิธีแก้เบื้องต้นให้คุณลองทำได้เองได้ง่ายๆ


อาการที่พบบ่อย พร้อมวิธีแก้เบื้องต้น

อาการที่ 1: วิดีโอไม่โหลด / มีเครื่องหมาย X ขึ้นกลางหน้าจอ

สาเหตุ:

  • เบราว์เซอร์เก็บ cache เก่า
  • safari/Chrome ค้าง
  • ไฟล์วิดีโอถูกบล็อกด้วยระบบความปลอดภัย

วิธีแก้:

  1. กด Refresh หน้าเว็บ
  2. ปิดหน้าเว็บแล้วเปิดใหม่
  3. ลองเปลี่ยนเบราว์เซอร์ เช่น Chrome → Edge / Safari → Chrome
  4. ล้าง Cache
    • PC (Chrome): Settings → Privacy → Clear browsing data
    • iPad/iPhone (Safari): Settings → Safari → Clear History and Website Data
  5. ปิด VPN / Private Relay / Proxy
  6. รีสตาร์ทเครื่องหนึ่งครั้ง

อาการที่ 2: เคยดูได้ แต่วันถัดมาเปิดไม่ได้

สาเหตุ:

  • Safari เก็บข้อมูลวิดีโอเก่าค้าง
  • การตั้งค่าความปลอดภัยของ iPad บล็อกไฟล์วิดีโอ
  • iPadOS ไม่รองรับไฟล์ HTML5 บางประเภท

วิธีแก้:

  1. ล้างข้อมูล Safari Settings → Safari → Clear History and Website Data
  2. เปิด JavaScript Settings → Safari → Advanced → JavaScript = ON
  3. ปิด Prevent Cross-Site Tracking
  4. ปิด Private Relay (iCloud)
  5. ปิด VPN
  6. อัปเดต iPadOS
  7. ถ้ายังไม่ได้ → ลองใช้ Chrome / Firefox แทน Safari

อาการที่ 3: วิดีโอหมุนอยู่ แต่ไม่ยอมเล่น

สาเหตุ:

  • อินเทอร์เน็ตไม่เสถียร
  • ความเร็วปรับคุณภาพวิดีโอไม่ทัน
  • เครื่องเหลือพื้นที่น้อยเกินไป

วิธีแก้:

  1. เปลี่ยนจาก Wi-Fi เป็น 4G/5G → ทดสอบ
  2. รีสตาร์ท Router
  3. ย้ายไปพื้นที่ที่สัญญาณแรงขึ้น
  4. เช็กพื้นที่เครื่อง
    • เหลือน้อยกว่า 1GB → Safari/Chrome จะโหลดวิดีโอไม่ได้
  5. ปิดแอปอื่นที่เปิดค้างเพื่อลด RAM

อาการที่ 4: ดูบนมือถือไม่ได้ แต่ในคอมดูได้

สาเหตุ:

  • ระบบมือถือบล็อก Cookie
  • เบราว์เซอร์ไม่ได้รับอนุญาตให้รันวิดีโอ
  • แคชจำผิดไฟล์

วิธีแก้:

  1. ล้าง Cache เบราว์เซอร์
  2. ปิดโหมดประหยัดข้อมูล (Data Saver)
  3. ปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode)
  4. เปิดอนุญาต JavaScript & Cookies
  5. ลองเปิดด้วยเบราว์เซอร์อื่น

อาการที่ 5: เปิดวิดีโอแล้วมีเสียง แต่ภาพไม่ขึ้น

สาเหตุ:

  • Codec วิดีโอของอุปกรณ์ไม่รองรับ H.265
  • เว็บโหลดภาพไม่ครบ

วิธีแก้:

  1. อัปเดตเบราว์เซอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด
  2. อัปเดต iOS / Android
  3. เปลี่ยนเบราว์เซอร์ (Chrome ↔ Safari ↔ Edge)
  4. รีสตาร์ทเครื่อง

วิธีแก้ปัญหาเฉพาะอุปกรณ์

สำหรับคอมพิวเตอร์ (PC / Notebook)

ให้ลองตามลำดับนี้:

  1. Refresh หน้าเว็บ
  2. เปลี่ยนเบราว์เซอร์
  3. ล้าง Cache
  4. ปิด Extensions เช่น AdBlock
  5. ปิด VPN
  6. รีสตาร์ทเครื่อง

สำหรับมือถือ (iPhone / Android)

  1. ปิด-เปิดแอปเบราว์เซอร์
  2. ล้าง Cache
  3. เปลี่ยนไปใช้ Mobile Data เพื่อทดสอบ
  4. อัปเดตระบบ
  5. ทดลองใช้ Chrome/Firefox

สำหรับ Tablet / iPad

  1. ล้างข้อมูล Safari
  2. เปิด JavaScript / เปิด Cookies
  3. ปิด Private Relay และ VPN
  4. อัปเดต iPadOS
  5. อย่าให้พื้นที่เครื่องเต็ม
  6. ถ้ายังไม่ได้ → ใช้ Chrome เปิดแทนได้ผลมากในหลายเคส

หากทำครบทุกขั้นตอนแล้วยังดูวิดีโอไม่ได้ ให้ตรวจสอบดังนี้

เมื่อคุณลองแก้ไขทุกวิธีแล้ว แต่ระบบยังไม่สามารถแสดงวิดีโอได้ อาจเกิดจากปัญหาอื่นที่เกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ หรือการตั้งค่าระบบที่ลึกขึ้น ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

🔹 1) ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างละเอียด

แม้จะเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ แต่บางครั้งอินเทอร์เน็ตอาจ “ช้าเป็นช่วง ๆ” หรือ “มีแพ็กเกจจำกัดความเร็ว” ทำให้วิดีโอไม่โหลด

วิธีตรวจสอบ:
✔ สลับเน็ตชั่วคราว
  • จาก Wi-Fi → Hotspot มือถือ
  • หรือจาก Hotspot → Wi-Fi

ถ้าเปลี่ยนอินเทอร์เน็ตแล้วเล่นได้ → ปัญหาอยู่ที่เครือข่ายเดิมแน่นอน เช่น Router, ISP หรือ Firewall

✔ ทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ต (Speedtest)

เข้าเว็บไซต์: speedtest.net

ดูค่าที่สำคัญ:

  • Download speed ควรมากกว่า 5 Mbps สำหรับเรียนวิดีโอทั่วไป
  • Ping ไม่ควรเกิน 40–80ms
  • ถ้าค่าผันผวนมาก วิดีโออาจโหลดไม่ขึ้น

🔹 2) ทดลองเปิดวิดีโอจาก “อุปกรณ์อื่น”

การทดสอบนี้ช่วยแยกได้ว่าปัญหาอยู่ที่ “ระบบ” หรือ “อุปกรณ์ของคุณ”

วิธีตรวจสอบ:

ลองเปิดจาก

  • มือถือ iPhone / Android
  • แท็บเล็ต
  • คอมพิวเตอร์อีกเครื่อง
  • เบราว์เซอร์อื่น

✔ หากอุปกรณ์อื่น เล่นได้ปกติ → ปัญหามาจากเครื่องเดิม เช่น การตั้งค่า, Cache, ระบบป้องกันความปลอดภัย, พื้นที่เครื่อง, หรือเบราว์เซอร์

✔ หาก ทุกอุปกรณ์เล่นไม่ได้เหมือนกัน → อาจเกิดจากไฟล์วิดีโอ, ระบบเซิร์ฟเวอร์, หรืออินเทอร์เน็ตของบ้าน/สำนักงาน


🔹 3) ถ่ายภาพหน้าจอ Error ส่งให้ทีมงานตรวจสอบ

การมีภาพหน้าจอช่วยให้ทีมเทคนิคหาสาเหตุได้แม่นขึ้น เช่น

  • รูปไอคอนตัว X
  • ข้อความเตือน (Error code)
  • หน้าจอวิดีโอค้าง
  • หน้าเว็บไม่โหลด
ควรส่งข้อมูลตามนี้:
  1. ภาพหน้าจอ Error
  2. ชื่ออุปกรณ์ + รุ่นที่ใช้
  3. ชื่อเบราว์เซอร์ (Chrome/Safari/Edge) + เวอร์ชัน
  4. อินเทอร์เน็ตที่ใช้ (Wi-Fi/4G/5G)
  5. เวลาเกิดปัญหา

ยิ่งข้อมูลครบ ทีมงานแก้ไขได้เร็วขึ้นมาก

ส่งข้อมูล >> แจ้งปัญหา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *